อีกครั้งสำหรับแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่จากหนังซีรีส์ญี่ปุ่น
… กิจกรรมยามว่างของผู้หญิง 40+ อย่างเรา
*
คราวนี้มากับหนังไม่ใหม่ ที่ซื้อมาแล้วดองอยู่นาน (เข้าไปอีก)
ด้วยใบปิดที่ดูแสนเศร้า ทำเอาเราผลัดวันประกันพรุ่งไปไม่ยอมดูสักที
จนหนังหมด lot นั่นแหล่ะ
เลยจำใจดูสักที กับหนังรางวัล Best Drama 2010
*
ดูหนังเรื่องนี้จบ ก็ตาบวมไปตามคาดหมายของเรา
และความคาดหวังของผู้สร้าง
ได้คิดมาอย่างหนึ่งก็คือ
เราทุกคนล้วนแล้วแต่จะมีปมบางอย่างจากครอบครัว
จะเล็กหรือใหญ่ จะมีผลดีหรือผลร้ายต่อชีวิตปัจจุบัน
…พนันได้มีกันทุกคน
ดังนั้นคุณจะสะเทือนใจจากมุมใด มุมหนึ่งจากหนังเรื่องนี้เป็นแน่
จาก “แม่” ในหลากหลายรูปแบบ
แม่รัก แม่ไม่รัก แม่ตี แม่กอด แม่อยากมีลูก แม่ไม่อยากมีลูก
แต่ที่ซับซ้อนแต่แสนจริงที่สุดก็คืิอ
ฉันเป็นแม่ และ ลูกของแม่… ในเวลาเดียวกัน
*
ขณะที่ดูไป น้ำตาไหลพรากไป
จึงไม่แปลกใจเลย ที่คุณจะเห็นซีนชีวิตตัวเอง
ซ้อนขึ้นมาในหนังอย่างช่วยไม่ได้
แต่แล้วมันปมจะตกตะกอนได้ง่ายขึ้น
จากการมองผ่านตัวละคร
เป็นการบาดเจ็บในอารมณ์ แต่ก็จบบางเรื่องในความทรงจำได้ง่ายๆ เหมือนกัน
… บอกแค่นี้ คงดีกว่าบอกว่า “หนังเรื่องนี้น่าดู” นะคะ
*
ไม่นับการแสดงที่ดีเหลือเกินในทุกตำแหน่งการแสดง
ใครคิดถึงคุณ “โอชิน” Yoko Tanaka ลองดูเรื่องนี้
สาวงามในความทรงจำของเรากลายเป็นคุณยายที่น่ารักเสียแล้ว
*
อีกทั้งคุณหลานแสนน่ารัก Mana Ashida
ที่ทำให้เรายิ้มไปด้วย และ น้ำตารื้นไปด้วย
ตลอดเวลาที่เราเห็นเธอบนจอ
และอีกหนึ่งแรงบันดาลใจครั้งนี้ก็มาจากเธอคนนี้
Happiness Diary
*
เธอจะเขียนสิ่งที่เธอชอบ หรือทำให้เธอมีความสุข
เป็นคำเล็กๆ หรือ ประโยคสั้นๆ ไว้ในสมุดบันทึก
เวลากลับมาย้อนอ่านจะได้รำลึกถึงมัน และ มีความสุขได้
*
เลยคิดทำดูบ้าง
ปรากฏว่าได้ผลจริงๆ ด้วย
เลยคิดแบ่งปัน และ ยั่วยุให้ลองทำกันดู
“คาปูชิโน่แก้วโต” จะพยายามมา post ความสุขใหม่ๆ เรื่อยๆนะคะ
แต่หากใครจะแบ่งปัน Happiness Diary ไว้ที่นี่ด้วย
ก็ยินดีอย่างยิ่งนะคะ
ถือว่าเติมความสุขให้กัน
**
**
**
โปสการ์ดในตู้จดหมาย
กลิ่นซักผ้าตอนเช้า
เสียงหลานๆ หัวเราะดังๆ
กลิ่นดินตอนฝนตกลงมาใหม่ๆ
มีคนตักกับข้าวให้
*
หลังจากความสำเร็จท่วมท้น
ของซีรีส์ชุดนี้
จึงมีการสร้างใหม่
ในหลายประเทศ
รวมทั้งไทยด้วย
ใส่ความเห็น