ฉันไม่ได้เขียนหนังสือ หรือบทความขนาดยาวมานานมากแล้ว นี่คงถือเป็นโอกาสดีสินะ ที่ได้จิ้มนิ้วลงบนคีย์บอร์ด ได้ฟังเสียงเคาะแป้นคอมพ์ ป๊อกๆๆ อีกครั้ง
…. ใช่…ฉันเรียกมันว่า “โอกาสดี”
ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ฉันก็จะเรียกมันว่า โอกาส “ดี” ที่จะได้เรียนรู้ในโรค หรือโลกอื่นที่ฉันไม่เคยรู้จัก และฉันจะถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบอกเล่า และให้คนอื่นได้เรียนรู้ไปกับฉัน โดยไม่ต้องก้าวเข้ามาในโลกใบนี้ หรือ หากบทความนี้จะสามารถช่วยใคร ให้ก้าวผ่าน ก้าวพ้น จาก Stroke หรือได้รับกำลังใจ ความเข้าใจ ความเป็นเพื่อน ความขอบคุณ หรือพลังบวกที่ฉันส่งให้แม้แต่เพียงสักนิด ก็จะเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง
ไม่ผิดหรอกที่เราจะเรียก “การเป็นผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง” หรือ Stroke ว่า โอกาสดี
นี่จะเป็นบทบันทึกขนาดยาว หลังจากวันที่ฉันเริ่มมีอาการ เส้นเลือดในสมอง ตีบ ประมาณ 6 เดือน (เริ่มเขียนในเดือน ตค.64) ซึ่งทางการรักษาพยาบาล มักจะถือเป็นเวลาโดยประมาณ ที่ผู้ป่วยน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ (จริงๆ มันไม่ปกติ100 % หรอกนะ) หรือสามารถช่วยเหลือตัวเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้แล้ว สำหรับฉันที่จะบอกให้ทุกคนหายห่วงและเชื่อมั่นว่าฉันคืนกลับมาใกล้คนเก่าแล้ว คงไม่มีอะไรดีเท่า ลงมือเขียนหนังสือ (อาชีพเก่า) ได้อีกครั้ง
แต่ก่อนที่จะเดินทางไปกับฉัน…
- ขอเชิญเข้ามุมปรับทัศนคติภายใต้สถานการณ์ไม่ฉุกเฉิน กันก่อนนิดนึงนะคะสิ่งที่จะพบในบทความ ไม่สามารถเป็นข้อมูลอ้างอิงทางการแพทย์ใดใดได้นะคะ ด้วยฉันไม่มีความรู้ทางนี้ มีแต่ประสบการณ์ล้วนๆ อีกทั้งการเป็น stroke มีหลายระดับ และการอุดตัน ตีบ หรือแตก ของเส้นเลือดในสมองมีความหนักหนาไม่เท่ากัน ขึ้นกับหลายปัจจัยมาก ทั้งขนาดของปัญหา และตำแหน่งของสมอง ดังนั้นแม้เราจะถูกเรียกอย่างเก๋ไก๋ในช่วงโควิดว่า “กลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง”เหมือนกัน แต่เราก็อาจมีอาการไม่เหมือนกันค่ะ
หมายเหตุ ผู้เขียน มีภาวะเส้นเลือดตีบในหลอดเลือดสมองบริเวณซีรีบรัม (Cerebrum)ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว รวมทั้งควบคุมกล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหว โดยอาการแสดงความรุนแรง ระดับ 4 (จาก 5 ระดับ โดยระดับ 1 จะหนักสุด) คือ สามารถยกแขนขาขึ้นในแนวตั้งได้(เมื่อนอนราบ) แต่อ่อนแรงครึ่งซ้าย ไม่สามารถรับแรงต้านได้ หรือควบคุมเคลื่อนไหวได้เท่าคนปกติ หรือถ้าจะเรียกว่า “อัมพฤกษ์” คงไม่ผิดนัก
- ด้วยเพราะไม่มีความประสงค์ให้คุณ หรือ ให้โทษ ใดใด กับ สถานพยาบาล และบุคลากรทางแพทย์ ที่เกี่ยวข้องในการรักษาฉัน จึงขอไม่ใส่ชื่อสถานที่ หรือ นามของท่านเหล่านั้นนะคะ เนื่องจากดิฉันเชื่อโดยสุจริตใจว่า บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ตั้งใจดูแลผู้ป่วยอย่างดียิ่งอยู่แล้ว หากมีเหตุใดใดที่ทำให้การรักษาคลาดเคลื่อนไปนั้น ก็เพราะมีมูลเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นมากมายนะคะ โดยเฉพาะใจผู้ป่วยที่จะพอใจหรือไม่เท่านั้น ดังนั้นจึงอย่านำเรื่องในบทความนี้ไปตัดสินการทำงานอันมีค่าของใคร หรือแม้แต่จะนำความพอใจเป็นที่ตั้ง จะตามกันไปรักษาที่เดียวกันกับผู้เขียน เพราะ stroke ต้องการการเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นสำคัญ หากเกิดเหตุฉุกฉินขึ้น รพ. ที่ใกล้ที่สุด หมอคนแรกที่พบ จะดีที่สุดเสมอนะคะ
- เนื่องจากฉันเองเคยเป็นคนดูแลผู้ป่วย stroke มาก่อน (พ่อ และแม่) เมื่อคราวนี้ได้กลายเป็นผู้ประสบเหตุเอง ทำให้เข้าใจกับอาการ เหตุการณ์ หรือสิ่งที่ซ่อนใต้พรม ของผู้ป่วย stroke ได้มากขึ้นจาก ทั้ง 2มุม ในแต่ละบทของเรื่องราว จึงมี “จดหมายเปิดผนึกถึงผู้ป่วย” และ “จดหมายเปิดผนึกถึงญาติ มิตร ผู้ป่วย” เพื่อจะเขียนตรงสู่บทบาทของคุณผู้อ่านโดยตรง หากคุณไม่ตรงกับบทบาทใด ก็สามารถข้ามผ่านไปได้นะคะ หรือจะลองเปิดอ่านด้วย เพื่อเข้าใจคนข้างๆ เราให้มากขึ้น ก็ไม่รังเกียจนะคะ
- ทั้งนี้ ยังมี “จดหมายเปิดผนึกถึงบุคลากรทางการแพทย์” ด้วย ซึ่งมักเป็นการบอกล่าวจากมุมที่คุณหมอพยาบาล นักกายภาพ อาจมองไม่เห็น ซึ่งมีทั้งการร้องขอความเข้าใจ และขอบคุณอย่างซาบซึ้งด้วย
- หากผู้อ่านต้องการส่งต่อหรือแชร์บทความนี้ให้ใคร (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพาณิชย์) ผู้เขียนมีความยินดีนะคะ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตก่อนเลยค่ะ โดยเฉพาะหากคุณส่งต่อไปยังผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับภาวะอัมพาตอัมพฤกษ์หรือผู้ดูแลผู้ป่วย ดิฉันขอฝากการโอบกอดแน่นๆ ด้วยความเข้าใจถึงความยากลำบาก พร้อมส่งความเป็นเพื่อนที่รับรู้ถึงความสาหัสของการใช้พลังหมดทั้งตัวและหัวใจ และขอฝากส่งกำลังใจไปให้ด้วยนะคะ ฝากบอกด้วยนะคะว่า ขอให้เชื่อมั่นในตัวเรา และสมองของเราที่เป็นอวัยวะพิเศษ
- ถ้าเราพยายามที่จะลุกขึ้นพัฒนา โดยไม่ปล่อยให้สมองของเราทดท้อถดถอย ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ
ไปค่ะ เดินทางกันไปที่ตอนต่อไปกันเลย แต่อย่าเดินเร็วนะคะ รอด้วยค่ะ ฉันยังเดินโยกเยก และสับขาไม่เร็วเท่าคนปกติเลย
สวัสดีค่ะ รบกวนขอ email หรือ contact ติดต่ออื่นๆ ค่ะ – ติดต่อจาก นิตยสาร ชีวจิต นะคะ // หรือโทรกลับ 094-992-6551 ขอบคุณมากค่ะ
ขอโทษนะคะ ที่เข้ามาตอบช้า เนื่องจากไม่ได้เข้ามาเช็คcommentเลยค่ะ
สามารถติดต่อ ดิฉันได้ที่
วชิรเพ็ญ โทร 0819196260
หรือ wachirapen@gmail.com ค่ะ