Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for the ‘* เพลงพาไป’ Category

ticket.jpg

เมื่อคืนวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปชมคอนเสิร์ต “เรวัต พุทธินันท์” remember In Tribute Concert

จริงๆ ควรถือเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของวงการดนตรีของปีนะคะ เนื่องจากพี่เต๋อถือเป็นบุคคลซึ่งมีคุโณปการวงการเพลงไทยสากลยุคใหม่ของเรา … แต่สงสัยความคาดหวังที่มาจากความทรงจำอันเนิ่นนาน มันคงมากเกินไปกว่าความเป็นไปได้ทางธุรกิจและการจัดการ

ไม่ถึงกับผิดหวัง… เพราะพี่เต๋อในใจเราคงไม่ได้บุบสลายไป เพียงแต่ “พี่เต๋อ”ในใจผู้จัดหละ เปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรไปบ้างแล้ว ?

(เพิ่มเติม…)

Read Full Post »

42-18123074.jpg

กำลังดู concert LIVE EARTH ผ่าน msn อยู่ เมื่อกี้ยังนั่งฟัง Jack Johnson อย่างสบายอารมณ์พร้อมคนออสเตรเลีย พอ Linkin Park เล่นที่ญี่ปุ่นได้ไม่นาน เราต้องมีอันลุกขึ้นวิ่งปิดประตูหน้าต่างเป็นการใหญ่

เมื่อกี้ยังแดดออกอยู่ดีๆ เลย… แต่ตอนนี้ฝนตกลมแรง ออกมายืนดูที่หน้าต่าง เผื่อว่าจะเก็บกระถางต้นไม้เล็กๆ ไม่ให้ถูกแรงลมขยับตกตึกไป ดูสายฝนบนลมหอบแล้วน่าตกใจ ต้องขยี้ตาดูอีกทีว่าเห็นไม่ผิดแน่ๆ…

ฝนมันตกตามแนวขวาง!!! ไม่ได้ดิ่งตกลงพื้น มันเป็นเส้นเอียงๆ นอนๆ แรงๆ และเหวี่ยงไปไกล

ลมแรงจนกระจกตีตัวเองเหมือนจะพยายามกระโดดออกจากกรอบ จนเราเองต้องถอยออกมาสักสองก้าว พาลนึกว่าขอให้วันนี้อย่ามีป้ายยักษ์ที่ไหนหล่นมาทับใครอีกเลยนะ

เสียงเพลงใน msn ยังชัดอยู่ เปลี่ยนมาฟัง Crowded House ที่ออสเตรเลียอีกที ได้ยินแว่วๆ เขาบอกว่าเขาจะเล่นเพลงที่แต่งให้งานนี้โดยเฉพาะ… ก็คงเป็นเพลงที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นแน่ๆ

แต่หูอื้อจากเสียงลมอยู่ แถมยังต้องวิ่งออกไปดูบรรดานกพิราบที่บินต้านลมไม่ไหว มาเกาะอยู่ที่ระเบียง ธรรมดาแล้วเราก็ไล่เขานะ เพราะก็กลัวหวัดนกเหมือนกัน แต่ตอนนี้เราต่างก็เป็นสัตว์โลกที่กลัวธรรมชาติลงโทษด้วยกัน ต่างคนและต่างตัวก็ขดตัวกันนิ่งๆ ในที่ของตัวเอง

ไม่รู้ว่าคอนเสิร์ต LIVE EARTH ที่เขาว่าอาจจะมีคนดูทั่วโลกกว่าสองพันล้านคน จะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากรวม CD เพลงขาย !

มองโลกในแง่ดี การที่คนสองพันล้านคนที่กำลังฟังสื่อดนตรีอยู่เนี้ย คงได้ข้อความเกี่ยวกับ Global Warming เข้าหูไปกับตัวโน๊ตอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เสียงเพลงทำหน้าที่ของตัวเองในเชิงบันเทิงแล้ว ยังต้องทำหน้าที่เป็นกาวยึดคนฟังให้ติดเก้าอี้เพื่อรับมติสวรรค์ว่า… “มนุษย์เอ๊ยยย เอ็งทำข้าร้อน ตอนนี้ถึงตาเจ้าร้อนบ้างแล้วเว้ย”

เสียงหวี๊ดกรี๊ดของชาวออสซี่ยังอยู่ในคอม… แต่เราไม่เหลือใจจะฟัง!
ตอนนี้เสียงลมหวือ และ เสียงฝนตบกะโหลกโลกมันดังกว่า LIVE EARTH CONCERT ซะแล้ว

เดินไปปิดคอม แล้วโทรหาแม่ดีกว่า…

http://liveearth.msn.com/??

…………………………………………………………………………………………. 

Read Full Post »

chalieng01.jpg

มีใครสักคนใช้คำนี้ในเว็บไซต์เฉลียง…

ชอบ และ เห็นภาพมาก!

“ความสามารถ” เราไม่กังขาเห็นกันมาเป็นสิบๆ ปี ส่วน ”ใจรัก” เรายิ่งไม่เถียง ไม่งั้นคงไม่มารวมตัวกันได้อีกขนาดนี้ …แต่สมรรถภาพทางเพลงนี้ซิ บางทีก็ต้องยอมรับความจริง

แต่ต้องยอมรับว่า วงที่มาเล่นคราวนี้ปึ๊กมาก เครื่องเสียงก็แน่น การ rearrange หลายเพลงฟังแน่นหนาน่าสนใจ และดูเป็นพิเศษขึ้นจากการนั่งฟังซีดีอยู่กับบ้าน

ว่าแต่ลุงๆ เฉลียงเถอะ… สมรรถภาพที่ว่าลดลงจนน่าเหนื่อยแทน

เพราะเสียงดนตรีที่ดังคับฮอลล์ การใช้พลังของนักร้องที่ห่างเหินเวทีคงต้องเค้นกันเอาการอยู่ เพราะเสียงพี่ๆ หลายคนจมหายไปกับเสียงหมู่ไวโอลินข้างหลังนั่น กลายเป็นเสียงร้องประกอบดนตรีไป ดีนะที่เราทุกคนคุ้นเพลงพี่พอๆ กับเพลงชาติ…(มุขใคร?) ทำให้เรามีเสียงพี่ๆ ในหัวเราคลอไปด้วยตลอด

ที่จะหวังว่าให้คนดูช่วยร้องจนคับฮอลล์เหมือนเจ็ดปีที่แล้ว ที่พี่แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง และงงดีแท้ที่ไอ้พวกบ้านี่ ซื้อตั๋วราคาหลายร้อยมาร้องเพลงเองกันอยู่ได้…. มาถึงปี 50 นี้ ก็คงต้องผิดหวัง เพราะสมรรถภาพของคนดูก็ตกต่ำลงตามกัน เพราะถ้าตอนดู “เรื่องราวบนแผ่นไม้” อายุ 30 ปี วันนี้ก็ใกล้สี่สิบแล้ว ไขมันใต้คางมันหนักจนอ้าปากร้องตามไม่ไหวจ๊ะ พี่ๆ เลยได้โชว์เดี่ยวไมโครโฟนสมใจ

แต่ยังไงก็ต้องคารวะ พี่ดี้ พี่เจี๊ยบ ที่เสียงยังมั่นคง สนั่นกังวานโหมสู้ให้ band หลายสิบชิ้นข้างหลังจนกลายเป็นดนตรีประกอบได้ และที่น่านับถือที่สุดก็คงเป็นพี่แต๋งที่เฝ้าเวียนเดินขึ้นเดินลงเป่าให้คนนั้นที คนนี้ที จนน่าแอบไปเติมลมที่ปั๊มหน้าเมืองทองนะคะ

แต่จะมีใครบ่นเหรอค่ะว่าร้องไม่ดี…. ไม่มีหรอกค่ะ

ก็เฉลียงเนี้ย เป็นข้อยกเว้นทางการดนตรีอยู่แล้ว ที่โน้ตเจ็ดตัวเป็นเพียงเครื่องมือสื่อสาร และเสียงก็เป็นแค่ตัวนำพา คุณภาพที่ที่แท้จริงมันอยู่ที่พลังใจ พลังความคิด หาใช่พลังเสียงเป็นเอก

ซึ่งนั่นก็ทำให้เฉลียงได้คะแนนเต็มตั้งแต่ยังไม่ร้องแล้วหละค่ะ

Read Full Post »

09808-4.jpg

จะมีศิลปินวงไหนในโลกสามารถเอาคนในครอบครัวขึ้นเวทีต่อเนื่องกันเป็นสิบปีได้ เหมือนที่เราเห็นน้องต้นไม้ตั้งแต่ครั้งพูดไม่ชัด จนถึงวันที่เป็นหนุ่มได้ขนาดนี้ เป็นการมองเด็กคนนึงแบบชื่นใจ ไม่ใช่แค่ดูโชว์

เราเหมือนเป็นญาติ เป็นพี่ เป็น อา เป็นน้า เป็นลุง ที่ยิ้มแก้มตุ้ยกับเด็กตัวน้อยๆ ที่คุณไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่วันนี้ก็พร้อมจะเปิดใจรักเขาเต็มที่ เพียงเพราะเขาเป็นลูกของเฉลียง!!!

24.jpg

ไม่แปลกใจเลยว่าเสียงกรี๊ดที่เราเคยให้พ่อเกี๊ยง วันนี้ได้มอบหมดปอดให้น้องแก้มดาวดวงใหม่ของเวทีนี้

ย้อนกลับเมื่อยี่สิบปี่แล้ว หลายคนคงกรี๊ดหนุ่มๆ วงเฉลียงด้วยตาฝันหวาน อยากมีหนุ่มสถาปัตไปอยู่ในโลกฝันหวานสีชมพูผูกริบบิ้นขาวแล้วมีตุ๊กตาคิตตี้ห้อยอยู่ข้างๆ

… เราเคยกรี๊ดเวลาเขาเสยผม กรี๊ดเวลาเขายิ้มมุมปาก กรี๊ดเวลาเขาเต้นไปรอบๆ เวที กรี๊ดเวลาเล่นผิดคีย์ กรี๊ดไปหมด ที่เขาเรียกกรี๊ดสลบนั่นแหล่ะ

กาลเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก .. โลกสีชมพูในความฝันผันเป็นโลกสีเทาในความจริงด้วย เพราะหวานใจตัวจริงนั่งพุงพลุ้ยอยู่ข้างๆ เสียแล้ว หนุ่มสถาปัตในฝันก็ดันเป็นเสี่ยๆ หัวเถิกไปแล้วเช่นกัน

แต่เสียงกรี๊ดจะหายไปก็หาไม่… เพียงแต่วันนี้ความพึงใจที่เรามีต่อเฉลียงมันก็โตขึ้นตามเรามาเหมือนกัน จากเด็กสาวแอบปลื้มเด็กหนุ่ม วันนี้เราก็กลายเป็นคุณน้าใจดีเอ็นดูหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดคุณพ่อคนที่เราคุ้นเคย ความหล่อเหลาหรือเสน่ห์ชายหนุ่มมันเพิ่มน้ำหนักขึ้นเป็นความอบอุ่นที่ส่งผ่านออกจากสายตาของความเป็นพ่อแทน

จากผู้ชายที่ดูเท่ที่สุดยามถือกีต้าร์ …ถึงวัยนี้ผู้ชายจะดูดีที่สุดตอนอุ้มลูก หรือ กอดลูกนี่แหล่ะ

หากจะยังมีใครเพ้อๆ กับหนุ่มๆ กลุ่มนี้อยู่ ฝันหวานที่มีก็จะไม่ใช่ “อยากจูงมือกันไปดูหนัง” แต่จะเป็น “อยากให้ไปจูงมือลูกเรา” แทนซะแล้ว

ดูซิ ความฝันมันยังเพิ่มอายุของตัวมันเองได้เลย

เฉลียงกับแฟนเฉลียงจึงมีรูปแบบที่แปลกไปกว่าศิลปินวงอื่น ก็ตรงที่เราจะโต หรือเราจะแก่ไปด้วยกันนี่แหล่ะ ไม่มีใครฝั่งไหนจะยื้อหยุดเวลาเอาไว้ที่ใดที่หนึ่ง แต่กลับจะเดินทางไปด้วยกัน

ดังนั้นทุกครั้งที่ดูคอนเสิร์ตเฉลียงจึงเป็นการมาเจอญาติ มาปลื้มคนสนิท มาเป็นกำลังใจเพื่อน …ไม่ใช่มาดูโชว์!!! (ย้ำ)


Read Full Post »

chalieng.jpg

พนันกันได้ว่าจะมีคนถามคำถามนี้เหมือนกับเรา ไม่ว่าจะอยู่ในใจ หรือพูดออกมาดังๆ ก็ตาม
“ทำไมเขาไม่ออกมาพร้อมกันสักทีนะ?”

กว่าครึ่งคอนเสิร์ตที่ เ ฉ ลี ย ง …โชว์ทีละคน!!!

ใครเป็นแฟนพี่ดี้ยกมือขึ้น
ใครเป็นแฟนพี่แต๋งยกมือขึ้น
ใครเป็นแฟนพี่เกี๊ยงยกมือขึ้น
ใครเป็นแฟนพี่เจี๊ยบยกมือขึ้น
ใครเป็นแฟนพี่จุ้ยยกมือขึ้น
ใครเป็นแฟนพี่นกยกมือขึ้น
ถ้ามีใครถามแยกแฟนกันอย่างนี้… คงได้คำตอบทีละหยิบมือ

ท้าให้ก็ได้ ต่อให้คนที่ได้รับเสียงกรี๊ดดังสนั่นที่สุด ถ้าแยกออกมาเดี่ยวคอนเสิร์ตจะมีคนมาขนาดนี้ไหม?
คำตอบ…คือ ไม่ …อย่างแน่นอน

คนดูอยากดูเฉลียงครบวง
ส่วนเฉลียงทั้งวงคงกำลังอยากให้ดูชัดๆ ทีละคน
หรือไม่ก็เพราะแยกซ้อมมา หรือที่สุดแล้วคงเพราะอายุอานามลุงๆ เฉลียงคงเยอะเกินกว่าจะยืนอยู่บนเวทีเป็นเวลานานๆ เนอะ… คิดอย่างนี้แล้วนึกชื่นชมพี่เบิร์ดกันไหม ทั้งร้องทั้งเต้นเป็นชั่วโมงๆ ทั้งๆ ที่คนอายุเดียวกันหอบไปตั้งแต่เพลงที่สามแล้ว

ที่นึกออกมาตั้งเยอะแยะ ก็เพราะพยายามหาเหตุผลให้เฉลียง เพื่อไม่ให้โกรธกัน งอนกัน จริงๆ ก็เพราะไม่อยากจะตินั่นเอง

แต่ถ้ารูปการออกมาเป็นอย่างนี้เพราะสคริป หรือคนจัดคอนเสิร์ตที่หวังดีหล่ะก็ ต้องบอกว่า… เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? การเห็นสระเอ ตัวเดียว ฉอฉิ่งตัวเดียว ไม่มีลอ สระอี ยอ งอ อยู่ด้วยกัน มันก็ไม่เป็นเฉลียงสักทีอย่างที่พี่จุ้ยว่าบนเวทีนั่นแหล่ะ

เสน่ห์เฉลียงไม่ใช่แค่เพลงที่ดี แต่มันคือ jigsaw ของไม้กระดานแต่ละแผ่นที่ตอกรวมกันมากกว่า…

Read Full Post »

09780-42.jpg

พอแสงไฟทั้งฮอลล์หรี่ลงเสียงปรบมือดังลั่นรอบอาคาร หลังจากรอคอยมาเจ็ดปีวินาทีที่ “คาดหวัง” กำลังเริ่มขึ้น

เสียงเมโลดี้คุ้นเคยในวิถีดนตรีใหม่ทำเอาหัวใจคึกคัก เราได้ยินเพลงเอกเขนกที่มักเปิดตอนปูเสื่อหน้าบ้าน มาในจังหวะคึกคักกับ band วงใหญ่ ที่คุณภาพเสียงแน่นเปรี๊ยะมันกระหึ่มจนไขมันในพุงกระเพื่อมกันเป็นแถวๆ ทำให้หัวใจมันพองโตและเริ่มแหกปากร้องเอกเขนก แต่ย่ำเท้าแบบมาร์ชไปพร้อมกับคนบนเวทีด้วย ช่างเป็นความตรงข้ามของเนื้อร้องและความเร้าใจที่ลงตัวเสียจริงๆ

แต่พอหึกเหิมชั่วครู่ มองดีๆ ไปบนเวทีเราเห็นเฉลียงไม่ครบทีมนินะ ถือเป็นการเปิดตัวแบบทำร้ายจิตใจแฟนพันธุ์แท้แต่ถูกต้องตามหลักประเพณีเสียยิ่งกระไร ในฐานะที่ต้องเกริ่นที่มาที่ไปของการจัดงานแบบถาปัตๆ กันก่อน …ไม่เป็นไรเรารอได้

ไม่เกินจะทน พี่แต๊ง และ พี่จุ้ยก็เข้ามาสมทบในฐานะเฉลียงจุฬา… อย่างที่ว่า “ลงตัว แต่ไม่ลงใจ” พี่นกทำไมไม่ขึ้นเวที เราหันหน้าถามเพื่อนกันเลิ่กลัก ว่าทำไม ทำไม ทำไม ไปไหน ไปไหน ไปไหน?????

ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางสคริป เหตุผลทางสถาบัน เหตุผลทางครอบครัว เหตุผลส่วนตัว หรือไม่มีเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็… “ไม่เคยคิดถาม”...อยู่แล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงนั้น… รับได้ มันเหมือนคนคบกันมานาน “ ดีก็รัก เสียก็รับได้” ก็ทำสบาย สบาย ทำให้หัวใจเอกเขนกซะแล้วนี่หน่า

จะอย่างไรก็ตาม เมื่อพี่นกขึ้นบนเวที แม้จะร้องน้อย พูดน้อย หรือจะ พยายาม low profile อย่างที่พี่จุ้ยว่าแค่ไหนก็ตาม …คนดูก็ไม่เคยคิดว่า พี่นกเป็นตัวประกอบเลย… แต่พี่คือคนที่ทำให้ช่วงหลังของคอนเสิร์ตกลายเป็นเฉลียงที่แท้จริงต่างหาก

Read Full Post »

stage111.jpg

พอเราย่างกรายเข้าสู่เขตเมืองทอง เราก็พบว่าคนที่เดินเหินอยู่ในบริเวณงานนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคนเฉลียง เฉลียงกันทั้งสิ้น นิยามนี้อาจจะอธิบายเป็นคำสั้นๆ แบบพจนานุกรมได้ยาก แต่หากจะเล่าเป็นคุณสมบัติอาจจะเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อดังต่อไปนี้

* เป็นแก๊งค์(เหมือน)สาวโสด อายุยก lot ประมาณ 3 คน 100 หรือ 5 คน 200… ซึ่งถ้าเราสวมแว่นตาที่มองย้อนอดีตได้ เราจะเห็นสาวๆ พวกนี้ เคยกรี๊ดๆ เกาะขอบเวทีเฉลียงในวัยวันผ่านยี่สิบปีที่แล้ว

* แก๊งค์ชายโสดที่มาด้วยกันก็พอเห็น แต่เราว่าน้อย นะ แต่มีอยู่ตรงไหน ก็น่าสนใจตรงนั้น เพราะดูจะเป็น(คนเคย)หนุ่มๆ จากแนวสถาปัตย์ ที่ยังคงดูความเป็นติสต์แม้จะสรีระเป็นเสี่ยแล้วก็ตาม

* สามีภรรยามาเป็นคู่ จะมีหน้าตาครุ่นคิดเคร่งเครียดเล็กน้อย เหตุเพราะทิ้งลูกไว้กับย่าหรือยายที่บ้าน แล้วแอบจะมาสวีทย้อนอดีตวันที่เคยจีบกัน หรือบอกเลิกแฟนคนก่อนหน้าด้วยเพลงเฉลียง

* กลุ่มทีมผสม เน้นแนวร่วมสถาบัน มากันเป็นหมู่คณะใหญ่ ผสมชายหญิงหลากแบบหลายวัย ในว่าจบมาจากที่เดียวกัน หรือทำงานที่เดียวกัน เห็นทัก “หวัดดีค่ะพี่” “เฮ้ยเอ็ง” “ไงมึง” กันดังลั่น เป็นการ reunion ทั้งแบบนัดหมาย และมาพบกันโดยไม่นัดหมาย สร้างรอยยิ้มอิ่มหน้ากันถ้วยทั่วทุกหัวเสา

* กลุ่มนี้จะน่ารักมาก… แม่มากับลูก หรือพ่อมากับลูก… คุณพ่อหรือแม่ที่เราเห็นอายุอานามน่าจะเป็นพี่ๆ ของพี่เฉลียงอีกที จะมากับลูกที่ไม่ทันเฉลียงแน่นอน คือหน้าจะละอ่อนประมาณสิบหรือยี่สิบปี …เห็นแบบนี้แล้วเรามีความสุข เหมือนเป็นการแบ่งปันประสบการณ์จากรุ่นต่อรุ่น นึกแล้วยิ้มๆ เหมือนตอนที่แม่เปิดเพลงชรินทร์ นันทนาครให้เราฟังตอนเด็กๆ แล้วเดี๋ยวนี้เราต้องคอยตามซื้อบัตรคอนเสิร์ต และซื้อซีดีของลุงชรินทร์ให้แม่อยู่เนืองๆ

* ชนกลุ่มน้อยของสังคมเฉลียง คือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี!!! แก๊งค์เรานั่งเล่นอยู่ขอบๆ อาคารอิมแพ็ค ท้ากันดูว่า คนไหนน่าจะอายุน้อยกว่าสามสิบปี… แหม! หาตัวจับยากเสียเหลือเกิน

แต่โดยภาพรวมๆ แล้ว สิ่งที่น่าสังเกตุอันหนึ่งก็คือ คนดูเฉลียง ดูเหมือนเป็นมนุษย์มีคุณภาพในสังคม คล้ายจะเป็นคนสำคัญในองค์กร (ดูจากรอยริ้วบนหน้าผาก และหางตา) หรืออย่างน้อยต้องเป็นคนมีใจคุณภาพในแต่ละพื้นที่ ด้วยอายุอานามที่คงเข้าเค้าว่าหลายท่านคงเป็นผู้บริหารระดับสูง หลายคนมีหน้าตาผ่านประสบการณ์โชกโชนแม้วันนี้จะพยายามเอาผมหน้าม้าลงมาปิดก็ตาม เพราะเราเห็นความสงบเรียบร้อยในคิวแถวยาวเหยียดที่ไม่ต้องมีการตะโกนโหวกเหวกว่ากัน เราเห็นคิวห้องน้ำที่ไม่แซงกันแต่กลับชี้ให้คนที่รอก่อนเข้าห้องตัวเอง เราเห็นคนเข้าฮอลคอนเสริตตามเวลา และออกจากที่จอดรถแบบโอภาปราศรัย

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าคุณเอาคนที่มาดูคอนเสริตเฉลียงไปร่วมกันทำอะไรสักอย่าง… มันคงได้ผลดีไม่ใช่น้อย หากวันนี้เป็นวันที่คนดีๆ ที่เคยแอบอยู่ในบ้าน ได้ยอมลุกจากเก้าอี้หน้าทีวีเดินออกมาอยู่ในที่เดียวกันขนาดนี้แล้ว อาจจะสร้าง “ปาติหาน” ได้มากกว่าเงินสมทบทุนให้องค์กรศิษย์เก่าสถาปัต จุฬาก็เป็นได้

เหมือนว่าจะลำเอียง ชื่นชนคนดูเฉลียงอะไรกันจะขนาดนั้น ก็ต้องบอกว่าต้องมาเห็นเอง ที่คนรุ่นใหญ่แต่ใหม่แกะกล่องที่ใจ มานั่งในที่เดียวกันเป็นหมื่นๆ คนเนี้ย เฉลียงมันคงไม่เอียงไปเพราะหนักอายุอย่างเดียวเป็นแน่ แต่มันน่าจะเอียงเพราะหนักคุณภาพคนทั้งบนเวที และคนรอบเวทีซะมากกว่า

Read Full Post »

13.jpg

ในที่สุดคืนวันที่ 30 มิถุนายนก็ผ่านไป
เชื่อว่าสำหรับคนสองหมื่นกว่าคนถือเป็นวันดี วันที่รอคอย… ก็เขาซื้อบัตรเพื่อดู “เหตุเกิดที่เฉลียง” แล้วนิจะทำไงได้
แต่เป็นการรอคอยและรวมตัวกันอย่างมีจุดหมายแห่งความสุขร่วมกันนะ
ยังนึกในใจว่าที่เขาชุมนุมกันที่โน้นที่นี่ เขารวมตัวกันด้วยความสุขเหมือนคนสองหมื่นคนที่อิมแพคอารีน่านี่ไหมน่ะ?

เราเองโชคร้าย…ป่วยป่วย เสียงหายจากอาการไข้หวัด ไอ้ที่เตรียมจะกรี๊ดให้ดังลั่นเหมือนเมื่อ 7 ปีที่แล้วก็เป็นอันต้องพับไป

ได้แต่ขอร้องกับเพื่อนว่า ถ้าเราทำสัญญาณมือ …ชี้ที่ปากเราและคอเธอ ก็แปลว่าฝากกรี๊ดด้วยแล้วกันนะ! เพื่อนก็แสนดีตอบรับเป็นกล่องเสียงให้เราซะอย่างงั้น…ซึ้งนะตัวเอง

เรากับเพื่อนฝูงอีกสามสาวโสดบ้างไม่โสดบ้างรวมตัวกันได้ โดยทิ้งลูกทิ้งสามีทิ้งแฟนกันไว้เบื้องหลัง เพื่อไปร่วมกันย้อนอดีตสมัยกรี๊ด “BOY BAND” วงนี้ร่วมกัน ถึงแม้วันนี้เขาจะเป็น “OLD MAN BAND” แล้วก็ตาม!!!


Read Full Post »

« Newer Posts