พอเราย่างกรายเข้าสู่เขตเมืองทอง เราก็พบว่าคนที่เดินเหินอยู่ในบริเวณงานนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคนเฉลียง เฉลียงกันทั้งสิ้น นิยามนี้อาจจะอธิบายเป็นคำสั้นๆ แบบพจนานุกรมได้ยาก แต่หากจะเล่าเป็นคุณสมบัติอาจจะเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อดังต่อไปนี้
* เป็นแก๊งค์(เหมือน)สาวโสด อายุยก lot ประมาณ 3 คน 100 หรือ 5 คน 200… ซึ่งถ้าเราสวมแว่นตาที่มองย้อนอดีตได้ เราจะเห็นสาวๆ พวกนี้ เคยกรี๊ดๆ เกาะขอบเวทีเฉลียงในวัยวันผ่านยี่สิบปีที่แล้ว
* แก๊งค์ชายโสดที่มาด้วยกันก็พอเห็น แต่เราว่าน้อย นะ แต่มีอยู่ตรงไหน ก็น่าสนใจตรงนั้น เพราะดูจะเป็น(คนเคย)หนุ่มๆ จากแนวสถาปัตย์ ที่ยังคงดูความเป็นติสต์แม้จะสรีระเป็นเสี่ยแล้วก็ตาม
* สามีภรรยามาเป็นคู่ จะมีหน้าตาครุ่นคิดเคร่งเครียดเล็กน้อย เหตุเพราะทิ้งลูกไว้กับย่าหรือยายที่บ้าน แล้วแอบจะมาสวีทย้อนอดีตวันที่เคยจีบกัน หรือบอกเลิกแฟนคนก่อนหน้าด้วยเพลงเฉลียง
* กลุ่มทีมผสม เน้นแนวร่วมสถาบัน มากันเป็นหมู่คณะใหญ่ ผสมชายหญิงหลากแบบหลายวัย ในว่าจบมาจากที่เดียวกัน หรือทำงานที่เดียวกัน เห็นทัก “หวัดดีค่ะพี่” “เฮ้ยเอ็ง” “ไงมึง” กันดังลั่น เป็นการ reunion ทั้งแบบนัดหมาย และมาพบกันโดยไม่นัดหมาย สร้างรอยยิ้มอิ่มหน้ากันถ้วยทั่วทุกหัวเสา
* กลุ่มนี้จะน่ารักมาก… แม่มากับลูก หรือพ่อมากับลูก… คุณพ่อหรือแม่ที่เราเห็นอายุอานามน่าจะเป็นพี่ๆ ของพี่เฉลียงอีกที จะมากับลูกที่ไม่ทันเฉลียงแน่นอน คือหน้าจะละอ่อนประมาณสิบหรือยี่สิบปี …เห็นแบบนี้แล้วเรามีความสุข เหมือนเป็นการแบ่งปันประสบการณ์จากรุ่นต่อรุ่น นึกแล้วยิ้มๆ เหมือนตอนที่แม่เปิดเพลงชรินทร์ นันทนาครให้เราฟังตอนเด็กๆ แล้วเดี๋ยวนี้เราต้องคอยตามซื้อบัตรคอนเสิร์ต และซื้อซีดีของลุงชรินทร์ให้แม่อยู่เนืองๆ
* ชนกลุ่มน้อยของสังคมเฉลียง คือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี!!! แก๊งค์เรานั่งเล่นอยู่ขอบๆ อาคารอิมแพ็ค ท้ากันดูว่า คนไหนน่าจะอายุน้อยกว่าสามสิบปี… แหม! หาตัวจับยากเสียเหลือเกิน
แต่โดยภาพรวมๆ แล้ว สิ่งที่น่าสังเกตุอันหนึ่งก็คือ คนดูเฉลียง ดูเหมือนเป็นมนุษย์มีคุณภาพในสังคม คล้ายจะเป็นคนสำคัญในองค์กร (ดูจากรอยริ้วบนหน้าผาก และหางตา) หรืออย่างน้อยต้องเป็นคนมีใจคุณภาพในแต่ละพื้นที่ ด้วยอายุอานามที่คงเข้าเค้าว่าหลายท่านคงเป็นผู้บริหารระดับสูง หลายคนมีหน้าตาผ่านประสบการณ์โชกโชนแม้วันนี้จะพยายามเอาผมหน้าม้าลงมาปิดก็ตาม เพราะเราเห็นความสงบเรียบร้อยในคิวแถวยาวเหยียดที่ไม่ต้องมีการตะโกนโหวกเหวกว่ากัน เราเห็นคิวห้องน้ำที่ไม่แซงกันแต่กลับชี้ให้คนที่รอก่อนเข้าห้องตัวเอง เราเห็นคนเข้าฮอลคอนเสริตตามเวลา และออกจากที่จอดรถแบบโอภาปราศรัย
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าคุณเอาคนที่มาดูคอนเสริตเฉลียงไปร่วมกันทำอะไรสักอย่าง… มันคงได้ผลดีไม่ใช่น้อย หากวันนี้เป็นวันที่คนดีๆ ที่เคยแอบอยู่ในบ้าน ได้ยอมลุกจากเก้าอี้หน้าทีวีเดินออกมาอยู่ในที่เดียวกันขนาดนี้แล้ว อาจจะสร้าง “ปาติหาน” ได้มากกว่าเงินสมทบทุนให้องค์กรศิษย์เก่าสถาปัต จุฬาก็เป็นได้
เหมือนว่าจะลำเอียง ชื่นชนคนดูเฉลียงอะไรกันจะขนาดนั้น ก็ต้องบอกว่าต้องมาเห็นเอง ที่คนรุ่นใหญ่แต่ใหม่แกะกล่องที่ใจ มานั่งในที่เดียวกันเป็นหมื่นๆ คนเนี้ย …เฉลียงมันคงไม่เอียงไปเพราะหนักอายุอย่างเดียวเป็นแน่ แต่มันน่าจะเอียงเพราะหนักคุณภาพคนทั้งบนเวที และคนรอบเวทีซะมากกว่า
Read Full Post »