วันหยุดยาวทีไร ก็จะได้โปสการ์ดใบใหม่ๆ มาทุกที
โดยเฉพาะจากจากลุ่มชุมชนคนออฟฟิซ
ที่จะต้องหยุด ต้องพักพร้อมๆ กันทั้งประเทศ
คราวนี้เราได้การ์ดทำมือ จากพี่สาวใจดี
ที่ร่อนมาจากริมฝั่งโขงจังหวัดเลย
“เชียงคาน”
*
*
*
เรือนแรมลูกไม้
๖ กค. ๕๒
เชียงคาน ริมโขง เลย
หยุด 4 วันพี่กับก๊วนเพื่อนสาวโสด (สนิท) สามสาวมาปลีกวิเวกที่เชียงคานเป็นครั้งที่สามแล้ว
แต่ทริปนี้เชียงคานเปลี่ยนไป
จากเมืองที่สงบเงียบมีแต่คนแก่ สายน้ำ บ้าน และห้องแถวร้างๆ
วันนี้เชียงคานลุกขึ้นมาเป็นหญิงสาวเกือยจะเปรี้ยว
มีร้านโปสการ์ด กาแฟ art gallery
เอากลิ่นอายของคนเมืองมา
แต่พี่ว่าชุมชนที่นี่ยังเข้มแข็ง
คุณตา คุณยายยังยิ้มรับแขก คงความเนิบช้าเหมือนเดิม
ก็หวังว่าเสน่ห์ของเชียงคานคงไม่สิ้นมนต์ขลัง
ไม่รู้ว่าสาวเปรี้ยวอย่างเธอจะเคยมาหรือยังจ๊ะ
ถ้าว่างก็มาสูดอากาศริมโขงนะ
* * *
ตอบพี่สาวใจดี ทางนี้เลยว่า …ยังไม่เคยไปเชียงคานเลย
ทั้งๆ ที่มีหลายคนแซวว่า
ถ้าได้ไปที่ “บ้านน้อยคอยรัก” แถบอัมพวาแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น
ป้ายหน้าขอให้ไป “เชียงคาน” ที่จังหวัดเลยได้แล้ว
*
เอ๊ะ มันเกี่ยกันตรงไหน ระหว่างหญิงสาวไร้คู่ กับ คาน ??
*
จากที่เคยอ่านมา ว่ากันว่า ที่มาของคำว่า “ขึ้นคาน” มาจาก “เรือ”
เรือที่ชำรุด ซ่อมแซม เขาจะยกขึ้นบก “ขึ้นคาน” ห่างน้ำ ไกลตลิ่ง
ถ้าอยู่บนคานนานๆ เค้าก็ว่าจะไม่โดนน้ำ ไม่โดนใช้งาน
เหมือนผู้หญิงถึงเวลาออกเรือน ออกเรือแล้วยังไม่ยอมลงน้ำ… โดนใช้งานสักที
ก็จะร้างคนแล และไม่ได้ใช้ประโยชนฺ์แบบนั้น
*
อ่านแล้วขำ หรือ เศร้าจ๊ะ… ยอมรับมาซะดีๆ
*
ก็คงเหมือนเรื่องที่ “เชียงคาน” เปลี่ยนร่างเป็น “สาวเปรี้ยว” มั้ง
จะให้โทษใครดี? ระหว่างชุมชน กับ คนไปเที่ยว
คนนึงร้องขอ คนหนึ่งตอบรับ
คนนึงสนับสนุน อีกคนก็เลยเรียนรู้ว่าทำแบบนี้แหล่ะ… จะรวย
*
แต่โปสการ์ดใบน้อยของพี่ก้อยก็คงบอกอะไรหลายอย่าง
ว่าสิ่งที่แตกต่าง เปลี่ยนแปลง ย่อมเกิดขึ้นได้
แต่ผู้ที่อยู่ในสายน้ำของความเปลี่ยนแปลงต่างหาก
ที่จะต้องทรงตัวและบาลานซ์ไม่ให้ล่มคว่ำ
คุณตาคุณยายที่เชียงคานไม่ได้ปิดประตูหนีกลิ่นเมือง
แต่อยู่แบบจัดสรรและพอดี ไม่ตีโพยตีพาย แต่ก็ไม่ให้ไปกว่านี้
เล็งเห็น ยอมรับ และปรับตัวกับคำว่าเปลี่ยนแปลงอย่างงดงาม
*
กลับมาที่สาวโสดกับ “ขึ้นคาน”
ก็ในเมื่อสายน้ำแห่งวันเวลามันเปลี่ยนไป
ทางน้ำดูจะเล็กลง บางช่วงก็ตื่นเขิน บางช่วงก็เน่าเหม็น
หากเรือบางลำ จะเลือก “ขึ้นคาน” ห่างน้ำ ไกลตลิ่ง
ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นข้อเสื่อมเสียไปเสียทั้งหมด
อรรถประโยชน์ของเรือก็ใช่จะเกิดขึ้นแต่ การ “โดน” น้ำเสียเมื่อไหร่
เห็นเรือบกเป็นก๋วยเตี๊ยวเรือ หรือเห็นเขานำขึ้นประดับไว้สวยงาม…ก็มีมาก
*
“คาน” จึงไม่น่าจะใช่คำสบประมาทอีกต่อไป
หากเราเข้าใจเหตุแห่งการเกิด มีอยู่ และเปลี่ยนแปลง
เหมือนกับ “เชียงคาน” ดินแดนแห่งความประทับใจของใครหลายๆ คน
ที่กำลังเลื่อนไหลบนคลื่นความประทับใจของคนเหล่านั้น
สู่โค้งน้ำเชียวของการวัดใจ
ได้แต่ภาวนาให้ผู้คนของชุมชนและผู้เดินทางหน้าใหม่
ช่วยกันประคองผ่าน “แก่งน้ำเงิน” นี้ไปได้อย่างงดงาม
อย่าได้เปลี่ยน “ปาย” อย่างน่าใจหายอีกเลย
*
POSTCARD INFORMATION
FROM: LOOGMAI GH
CHIANGKHAN, LOEI
TEL 042-822-344
*
ขอบคุณภาพเรืิอหาปลาที่เชียงคาน
จากบล๊อกพี่สาวใจดีและมือดีอีกคน
ที่ถ่ายรูปเชียงคานได้สวยจับใจ
เราคลิกหาแหล่งที่มาของโปสการ์ด
ซึ่งเป็นชื่อเกสต์เฮ้าส์ที่เชียงคาน จังหวัดเลย
มีคนเขียนถึงและถ่ายรูปไว้ให้ดูกัน
เลยขอนำ link มาปะไว้นะคะ
เพราะ “เรือนลูกไม้” ไม่ได้มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองจ้า
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bacchus&month=16-01-2009&group=6&gblog=3
คุณน้องหญิงเอารูปโปสการ์ดที่อิฉานส่งมาให้ขึ้นหิ้งซะสวยซึ้งกินใจเลย แถมบรรยายสรรพคุณของ “คาน” ในหลาย ๆ ความหมายได้โอมั่กๆ เลย
ไม่อยากจะบอกเมืองเลยนี้มีชื่อที่เป็นสิริมงคลกับสาวเปรี้ยวอีกเยอะ เช่น อ.นาแห้ว / ปอหมัน ซึ่งสรรพนามที่เอ่ยมาคือชื่อเพื่อนเลิฟที่ไปด้วยกัน 555
อยากให้ไปจริงๆนะ แล้วจะรู้ว่าสายน้ำที่ริมโขงไม่ได้เกรี้ยวกราดหรอกนะ ไหลไปเอื่อยๆ เนิบช้าเหมือนอารมณ์ของคนเชียงคานจริงๆนะ
ไหนจะสำเนียงของคนเชียงคานก็เพราะเสนาะหู ว่ากันว่าคนที่นี่อพยพมาจากลาวหลวงพะบางด้วย
และที่สำคัญอาหารอร่อยมากๆด้วย โดยเฉพาะส้มตำปลาร้าที่มีกลินหอมยั่วยวน ไม่เหม็นปลาร้าจัดจ้านเหมือนบางกอกบ้านเรา ( น้องหญิงผู้ไม่เคยพิสมัยส้มตำจะไม่มีวันรู้ว่าอร่อยแซบอีหลีเด้อค้า คริคริ)
เจ๊เหนียว หรือ คุณอัญมณี วัยน่าจะ 50 ปลายๆ 60ต้นๆ แล้วมั้ง สาวเสิร์ฟของร้านอาหาร -รร.สันติสุข ก็สุดแสนจะน่ารัก ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านให้กับชาวเชียงคาน เธอรับแขกหลากหลายรุ่น ไปกี่ครั้งเธอก็จำพวกเราได้ ถึงแม้จะจำชื่อเสียงเรียงนามกันไม่ได้ แต่ด้วอัธยาศัยไมตรีที่เธอมมอบให้ ไม่เพียงแต่กลุ่มเราที่ประทับใจ เราแอบเห็น (อ่านด้วย เพราะเค้าวางไว้ให้อ่าน )โปสการ์ดของคนอื่นที่ส่งหนังสือมาขอบคุณให้เจ๊แกอ่านเล่นยามที่ไม่ต้องรับแขกด้วย
แล้วไหนจะสองสาวลูกแก้ว ลูกไม้ และคุณลูกน้ำ สองสาวหนึ่งหนุ่มของเรือนแรมลูกไม้ ลูกของ อ.สมบูรณ์ หอมเทียนทอง และคุณเหน่ง ภรรยาที่แสนเปรี้ยว แต่สอนลูกใช้ชีวิตแบบเด็กโฮมสคูลได้น่ารักมาก
อยากให้ไปนะ ยิ่งปลายฝนต้นหนาวราวตุลา เมฆอ้อยอิ่งหยอกล้อกันคงน่าเอ็นดู และน่าจะโค-ต-ร-หนาว เราสัญญากะคุณเหน่งบ้านเรือนแรมไว้แล้วว่าจะไปสัมผัสเชียงคานให้ลมหนาวบาดหน้าอีกสักครา
ถ้าไปคราวหน้าแล้วเชียงคานเปลี่ยนเป็นปาย คล้ายวังเวียง กลุ่มของคุณพี่ก็คงจะต้องย้ายไปเชียงคำ เชียงม่วน อะไรเทือกๆนั้นแหละ
พี่ก้อย ไวจริงๆ นิ
ขึ้นบล๊อกปุ๊บ รู้ตัวปั๊บ
ว่าแต่ว่า
ไปคราวหน้าชวนด้วยเน้อ
หมู่เฮา สาวเชียงคาน
555