หนึ่งในกิจกรรมสมวัยหลักสี่
ที่ดูจะฮิตพอๆ กับการนั่งดูหนังเกาหลี ก็คือ
อ่านหนังสือธรรมะ
*
ต่างกันตรงอันแรกประโลมโลก
ส่วนกิจที่สองประโลมใจ
*
แต่ดูเหมือนว่าสมัยนี้จะไม่ต้องรอจนแก่ผมขาวนุ่งผ้าถุง
ถึงจะหยิบหนังสือธรรมะมาอ่านกัน
วันนี้เราเห็นเด็กรุ่นๆ หน้าใสๆ หยิบหนังสือเหล่านี้อ่านกันเอิกเกริก
สำนักพิมพ์ รายการทีวี รายการวิทยุ มีเรื่องธรรมะเต็มแผง
มิวายพระคุณเจ้าทั้งหลายจะกลายเป็น celebs อยู่รอมร่อ
*
จนดูเหมือนเรื่องธรรมะจะกลายเป็น trend ไปเสียแล้ว
*
แต่นี่ก็คงเป็น trend ด้านสว่างกระมัง
เมื่อโลกหมุนคืบไปทางใดทางหนึง
ย่อมส่งกระแสนำชีวิต (Trend) คนตามไปด้วยเช่นกัน
ในการลากถูกันไปนั้น มีทั้งด้านมืิดและด้านสว่าง
ในขณะที่คนหิวกระหาย วัตถุนิยมมากขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็เต็มเพดาน
จนจะมีคนอีกกลุ่มพยายามหลีกนี้ ค้นหาที่สงบแห่งใจ
จึงเกิดเป็นกระแสแห่งธรรม เพื่อเป็นจุดเย็นท่ามกลางโลกร้อน
*
วันนี้หยิบหนังสือธรรมะมาอ่าน ด้วยตัวประกอบทั้งสองอย่าง
ทั้งกระแสนำ และวัยวันที่ตามมา
อายุสี่สิบขึ้นมันทำให้อ่านหนังสือประโลมโลกไม่สนุกแล้ว
ด้วยว่าผ่านมา เห็นมา และปลงไปเยอะแล้ว
“ความสนุก” จึงอยากถูกแทนที่ด้วย … “ความสุข”… ทดแทน
*
“ยิ่งก้าวถึงสุข ยิ่งใกล้ถึงธรรม”
โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)
คือเล่มล่าสุดที่เพิ่งวางลงด้วยความสงบสุข
*
แรกเริ่มด้วยการเปิดดูผ่านๆ ไม่กี่หน้า
สร้างความขัดแย้งและคำถามในใจจนต้องได้หยิบเล่มนี้ติดมือมา
บาปไหมถ้าเราอยากมีสุข?
เี่รามีความสุขได้กี่ชนิด?
จะเข้าถึงธรรมะได้ต้องสละสุขทั้งหมดหรือเปล่า?
สุขแบบธรรมะ ต้องเป็นสุขชนิดเดียวที่คนแสวงหาหรือ?
ต้องบวชเรียนนุ่งขาว ห่มเหลืองถึงจะได้สุขหรือ?
สุขแบบเราๆ กับธรรมะ เป็นเรื่องบนเส้นทางเดียวกัน ได้หรือเปล่า?
ศาสนาพุทธสอนให้สุขมากขึ้น หรือ ให้ทุกข์น้อยลง?
*
เมื่ออ่านจบลง
ได้การจัดระเบียบความคิดแบบนิ่งสนิท
หลายเรื่องไม่รู้ …เลยได้คิด
หลายเรื่องเหมือนรู้ …แต่ไม่คิด
หลายเรื่องเหมือนคิด …แต่ไม่แตก
*
ไม่กล้าจะแนะนำให้ไปหาอ่าน ด้วยความดีเลิศ
เพราะ “คาปูชิโน่แก้วโต” ก็อ่าน ก็เห็นมา …น้อยเกินไป
และด้วยทางพุทธศาสนาก็มิได้จะให้เชื่อใครกันไปง่ายๆ
มุ่งเน้นให้ค้น และ พบ ด้วยตัวท่านเอง
เพียงแต่หากผู้ผ่านไปมาสนใจใคร่หามาอ่าน
เราเองก็เพิ่ง search เจอว่าพระคุณเจ้าท่านได้เมตตาให้ Load อ่านได้ฟรีๆ
รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่สามารถเลือกอ่าน ฟัง ได้จากเว็บไซต์ วัดญาณเวศกวัน
โดยเลือกอ่าน “ธรรมนิพนธ์” หรือ “ธรรมบรรยาย” ได้ตามสะดวก
*
ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้ามา ณ โอกาสนี้
แว๊ปมาเยือนบ่อย ๆ และไม่ผิดหวังที่ได้ข้อมูลดี ๆ จาก “คาปูชิโน”
กาแฟถ้วยนี้…ถือเป็นถ้วยโปรดที่ต้องใส่ใน Bookmarks ไว้แล้วค่ะ
ขอบคุณคุณลูกจันท์นะคะ
อย่าบอกสิค่ะ ว่ามาเยี่ยมบ่อย
คนเขียนบล๊อกก็อายนิ
ไม่ใช่อายอะไรหรอก … อายที่ไม่ค่อยมีอะไรมาเขียนหนะ
555
เขียนบล๊อกได้น่าสนใจค่ะ เรื่องดี ๆ แบบนี้จะโปรโมท / แชร์ ไปให้เพื่อน ๆ ได้เข้ามาร่วมแบ่งปันนะคะ
แวะมาเยี่ยมคุณคาปูชิโนแก้วโต้โต
ขออนุโมทนาด้วยที่ได้เผื่อแผ่ แบ่งปัน
มีอีกหลายเล่มที่ควรแก่การอ่านแล้ววางลงด้วยความสงบสุขเช่นกันนะ
ขอแนะนำ “แก่นพุทธศาสน์” โดย ท่านพุทธทาส
และ “พุทธธรรม” โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) เล่มนี้ขอแอบบอกว่าเล่มโต้โต
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคุณคาปูชิโนได้อ่านแล้วก็ถือว่าเราได้พบเพื่อนคอเดียวกันก้อแล้วกันนะ อิอิ
ขอบคุณคุณ monolisa เช่นกัน
กับวิชาทานที่แบ่งปัน
คาปูชิโน่มีเวลาได้นั่งคุยและหาความรู้ทางธรรมกับพ่อในช่วงหลังๆ มานี่
ถือเป็นช่วงเวลาที่แปลกดี ที่เราได้คุยเรื่องเดียวกับพ่อแบบเพื่อน
เป็นช่วงที่พ่อไม่ได้เห็นเราเป็นลูก แต่เห็นเป็นเพื่อนคอเดียวกัน
แต่ด้วยความเยาว์ของทุกด้าน
พ่อให้หนังสือของท่านพุทธทาสมาหลายเล่ม
สารภาพว่า.. อ่านเข้าใจยาก
พ่อให้กำลังใจว่า
เราเองยังโตขึ้นได้เลย
ท่านพุทธทาสเองก็เหมือนกัน…
หนังสือยุคหลังๆ ของท่าน อาจจะเข้าใจยาก
เพราะท่านเข้าใจศาสนาอย่างซับซ้อน เห็นหลายมุมที่เราไม่เห็น
พ่อเลยให้เริ่มจากเล่มง่ายๆก่อน ที่ท่านพุทธทาสเขียนในยุคแรกๆ เสียก่อน จะได้ไม่ท้อหนีไปเสียก่อน
หนึ่งในนั้นมีเล่ม “แก่นพุทธศาสน์” ด้วย
แต่คงขอเวลาอีกระยะนะคะ คงต้องผ่านอีกหลายขั้น
…กว่าจะได้เป็น “คอเท่ากัน” กับคุณ Monolisa
ต้องคลิ๊กเข้าไปดูแล้ว
…
ฮิตชอบดูซีรี่ย์ กะเขาเหมือนกัน แต่น้อยนักที่จะหยิบหนังสือธรรมะมาอ่าน หรือเพราะเรายังไม่ถึงวัย อิอิ ^ ^
แหมมม
คุณแตะ …ตัดช่องน้อยแต่พออายุเลยนะคะ
5 5 5
โอเคๆๆๆ ยอมๆๆๆ
อ่านหนังสือธรรมมะมากๆ ระวังกลับไปดูซีรี่ย์เกาหลีแล้วไม่สนุกเหมือนเดิมนะ
coffee prince ก็ coffee prince เถอะ
555
พี่นกไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย
เช็คจากการดูโอดัลจาแล้ว…
ยังคิดว่าหนังเกาหลียังเป็นความสุขประเภทนึงอยู่ดี
อิิอิอิ