ท่ามกลางเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงของระบบวิถีคิดของคนไทย
ที่ผสมผสานปนเประหว่างคำว่าประชาธิปไตย การเมือง ผลประโยชน์ และสี
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะลด ลา วา ศอก
กับความรู้สึกที่จะเข้าข้าง แล้วแบ่งแยก
รับรู้ในความเห็นที่แตกต่าง และยังเคารพคนอื่นอยู่
*
แต่ภาพเหตุการณ์นี้ ทำให้เกราะกำลังใจที่พยายามจะแข็งแรง
มันแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ
*
เมื่อเห็นคน ไม่เป็น คนอีกต่อไป
อย่าไปนับว่าเป็นพ่อ เป็นพี่ เป็นลูกกันเลย
เอาแค่ว่าเป็นคน … ก็ไม่เหลือแล้ว
*
หลายครั้ง หลายกลุ่ม ที่นำเด็กมาเป็นหมาก เป็นเครื่องมือ
เอาความใสซื่อของเด็กเป็นสัญญลักษณ์ความดีงามของตน
เอาความไม่เดียงสามาเป็นกำลังทัพเสริมเสียง
เอาความเป็นอ่อนวัยมาเป็นความน่าเห็นใจฉบับครอบครัว
*
แต่ไม่มีครั้งไหน ที่จะทำร้ายจิตใจได้เท่า
เอาเด็กเป็นเกราะกันกระสุน!!
*
ความคึกคะนอง ความขลาดเขลา ความเห็นแก่ตัว
ไม่สามารถเพียงพอจะเป็นข้อแก่ตัวให้ใครๆ ทั้งสิ้น
ไม่ว่าไอ้ “ตัว”นั้น จะเป็นพ่อ พี่ น้า อา หรือ คนลักพา
คำว่า “ชั่ว” ขั้นสูงสุด ได้เป็นของเขาแล้วอย่างเท่าเทียมกัน
เมื่อผู้ชายคนหนึ่งยอมจะมุดหัวเข้าไปใต้ผ้าอ้อมเด็ก
โดยที่เขาไม่รู้หรอกว่า ผ้าอ้อมซับฉี่ได้ แต่ซับยางอายไม่ได้เลย
*
นึกถึงเพลงๆ นึงขึ้นมาในหัว
ขอมอบให้แก่พ่อแม่ของเด็กคนนี้
ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้หยิบยื่นเด็กคนนี้ขึ้นรับแนวกระสุน
หรือ ปล่อยมือให้ “ตัว”ชั่ว นำลูกตัวเองไปใช้
…. วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกจัญไร
… วิญญาณปู่จะร้องเอาหลานกูไปทำไม
*
ป.ล. เหตุการณ์ ณ จุดปะทะ บริเวณแยกบ่อนไก่
18/5/2010
เลวร้ายมากจริงๆ
ต้องสอนลูกหลาน…. อย่างเอาเยี่ยงอย่างผู้ใหญ่จัญไร
คนดีมี 20 % ชั่ว 20% คนที่ไม่รู้ว่าอะไรถูกผิดดีชั่วมากกว่าครึ่ง ถ้าจะสอนลูกหลานก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไรผืดถูกดีชั่ว ผู้ใหญ่แบบนายมาร์คก็เกิดจากพ่อแม่ที่โง่เขลา อยากให้ลูกได้ดี แต่ไม่สอนความรับผิดชอบ ไม่รู้ว่าลูกตัวดีพอไหม ทักษิณก็ตะกราม ทำ 20 จะเอา 80
สุดท้ายอย่าเลือกใครดีกว่า